วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

วิธีการสมัคร Apple ID แบบไม่ใช้บัตรเครดิต แบบละเอียด!

วิธีการสมัคร Apple ID แบบไม่ใช้บัตรเครดิต แบบละเอียด!





สำหรับผู้ที่ใช้งาน iPhone, iPod Touch หรือ iPad สิ่งจำเป็นที่ควรจะต้องมี นอกเหนือไปจากการใช้งานขั้นพื้นฐานแล้ว นั่นก็คือ Apple ID ครับ หลายๆ ท่าน ที่เป็นผู้ใช้งาน iPhone มือใหม่ และต้องการดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่นบน AppStore มาใช้ แต่ติดปัญหาตรงที่ ยังไม่มี Apple ID และยังไม่รู้ วิธีการสมัครเข้าใช้งาน วันนี้ เว็บไซต์ techmoblog มี ขั้นตอนการสมัคร Apple ID แบบละเอียด มาฝากกันครับ

มีหลายท่านที่เกิดข้อสงสัยว่า ถ้าหากไม่มีบัตรเครดิต จะสามารถสมัคร Apple ID ได้หรือไม่ คำตอบก็คือ สามารถสมัครได้ครับ แต่การสมัคร Apple ID แบบไม่ใช้บัตรเครดิตนั้น จะสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะ แอพพลิเคชั่นที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีเท่านั้น แต่ถ้าหากต้องการซื้อ แอพพลิเคชั่นแบบเสียเงิน ก็สามารถเพิ่มเลขที่บัตรเครดิต ได้ในภายหลัง มาดูกันครับว่า วิธีการสมัคร Apple ID แบบไม่ใช้บัตรเครดิต มีวิธีการสมัครอย่างไร

ขั้นตอนการสมัคร Apple ID แบบไม่ใช้บัตรเครดิต



1) คลิ๊กเข้าไปที่ App Store บน iPhone, iPod Touch หรือ iPad ก็ได้ครับ ไปที่แท็บ Top Charts แล้วเลือกแอพพลิเคชั่นที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีมาซักตัวครับ (แอพพลิเคชั่นอะไรก็ได้ครับ ขอเน้นแค่ดาวน์โหลดฟรีก็พอ)



2) คลิ๊กที่ปุ่ม FREE และเลือก INSTALL APP



3) จากนั้น จะมีหน้าต่างให้ Sign In เด้งขึ้นมาครับ ให้เลือกที่ Create New Apple ID



4) ในส่วนของ Store ให้เลือกเป็น Thailand จากนั้น กดปุ่ม Next



5) หน้าถัดไป จะเป็นกฏข้อบังคับการใช้งาน ให้กดที่ปุ่ม Agree เพื่อยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลง ซึ่งจะมีหน้าต่างเด้งให้ Agree อีกรอบหนึ่งครับ



6) ถัดมา จะเป็นส่วนของการกรอก Apple ID ครับ โดยในส่วนของ Email นั้น ให้กรอกอีเมลที่ใช้งานอยู่จริง และยังไม่เคยใช้สมัครมาก่อน ในขณะที่รหัสผ่าน หรือ password นั้น จะต้องตั้งให้ถูกต้องตามกฏที่แจ้งไว้ด้านล่างครับ นั่นก็คือ จะต้องมีอย่างน้อย 8 ตัวขึ้นไป ประกอบไปด้วย ตัวเลข ตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวพิมพ์เล็ก ห้ามเคาะเว้นว่าง ห้ามใช้ตัวอักษรเดียวซ้ำกัน 3 ครั้งตัวอย่างของรหัสผ่าน ก็อย่างเช่น AaBb5839346 เป็นต้นครับ



7) เมื่อกรอกในส่วนของ อีเมล และรหัสผ่านเสร็จแล้ว ให้เลื่อนมาด้านล่าง จะเป็นส่วนของการตั้งคำถามพร้อมทั้งระบุคำตอบ ใช้ในกรณีที่ลืมรหัสผ่านนั่นเอง เมื่อเสร็จแล้ว ให้กรอก วันเดือนปีเกิด และถ้าหากต้องการรับข่าวสารจาก Apple ตรงส่วนของ Subscribe ให้เลือกเป็น ON จากนั้นกดปุ่ม Next ครับ



8) มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุด สำหรับการสมัคร Apple ID ครับ นั่นก็คือ ขั้นตอนการกรอกข้อมูลบัตรเครดิตนั่นเอง ในกรณีที่ไม่มีบัตรเครดิต ให้เลือก None ครับ (แต่สามารถกลับมาใส่เลขที่บัตรเครดิตได้ในภายหลัง) จากนั้น ให้เลื่อนมากรอกข้อมูล ที่อยู่ในการจัดส่งให้ครบถ้วน รวมไปถึงเบอร์โทรศัพท์ (ห้ามเว้นว่าง) จากนั้น กดที่ปุ่ม Next ครับ



9) เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว Apple จะส่งอีเมลไปยังอีเมลที่ใช้สมัครไว้ข้างต้น ให้เข้าไปเช็คอีเมล และกด verify เพื่อยืนยันตัวตนครับ



10) หน้าตาของอีเมล จะมีลักษณะดังรูปข้างต้นครับ ให้คลิ๊กที่ปุ่ม Verify Now เพื่อทำการยืนยัน



11) จากนั้นให้กรอกอีเมลที่ใช้สมัคร และรหัสผ่าน ให้ถูกต้อง และกดปุ่ม Verify Address ครับ



12) หากกรอกข้อมูลได้ถูกต้อง ระบบจะแจ้งว่า "Email address verified" เป็นอันเสร็จสิ้นการสมัคร Apple ID แบบไม่ใช้บัตรเครดิตครับ



13) จากนั้น ให้กลับมาที่ App Store บน iPhone ของเราครับ เลือกดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นฟรีซักตัว ในส่วนของหน้าต่าง Sign In ให้เลือก "Use Existing Apple ID" แล้วกรอก Apple ID ที่เพิ่งสมัครไว้ลงไป เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่อย่าลืมว่า วิธีการสมัคร Apple ID แบบไม่ใช้บัตรเครดิตนั้น สามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะแอพพลิเคชั่น ที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีเท่านั้นแต่ถ้าหากต้องการจะซื้อแอพพลิเคชั่น สามารถเข้าไปเพ่ิมรายละเอียดของบัตรเครดิตได้ ในภายหลังครับ

..........................................

ข้อมูลโดย : techmoblog.com


5 วิธีง่ายๆ ในการเพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ในบ้านของคุณ

5 วิธีง่ายๆ ในการเพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ในบ้านของคุณ

คงเซ็งในอารมณ์ไม่ใช่น้อยหากคุณพบว่า ไวไฟ (Wi-Fi) ในบ้านไม่เอื้ออำนวยให้การอ่านข่าวบนไอแพด (iPad) ยามเช้าไหลลื่นหมือนกาแฟที่กำลังดื่มอย่างคล่องคอในขณะนั้น บทความนี้ขอแนะนำวิธีง่ายๆ ในการที่จะปรับแต่งการใช้งานให้สัญญาณ Wi-Fi ในบ้านแรงขึ้น เพื่อการท่องเน็ตที่มีความสุขยิ่งขึ้น



สำหรับ เทคนิคที่นำมาเล่าสู่กันฟังในบทความนี้จะมีอยู่ 5 วิธีด้วยกัน โดยหากคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ได้ลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้ เชื่อว่า คุณจะสามารถเพิ่มระยะของการครอบคลุมสัญญาณไวไฟที่ไกลกว่าเดิม และประสบการณ์ในการท่องเน็ตไร้สายทีเร็วขึ้น ว่าแล้วลองมาดูกันครับว่า มีวิธีใดบ้าง?

1. อัพเดทเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้

หาก เราท์เตอร์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ ของคุณ ไม่ได้ล่าสมัยจนเกินไป (ไม่เกิน 3 ปี) ระบบทั้งหมดน่าจะสนับสนุนการเชื่อมต่อด้วยมาตรฐาน Wirelee-N ซึ่งหากตรวจสอบแล้วมันเข้ากันได้ แนะนำให้ตั้งค่าของเราท์เตอร์เป็น N-mode only เพื่อให้ได้ความเร็ว และรัศมีครอบคลุมการใช้งานสูงสุด การคั้งค่าเป็น b/g/n เพื่อให้สนับสนุนการเชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นเก่าทีทำงานช้ากว่า หากพีซีทีใช้มาพร้อมกับการ์ดเชื่อมต่อด้วย Wireless-G แนะนำให้มารุ่นใหม่ที่เป็น Wireless-N มาใส่แทน อย่างไรก็ตาม การซื้อเราท์เตอร์ใหม่ที่ไม่สนับสนุน Wireless-N มีโอกาสที่มันจะไม่สนับสนุนการเข้ารหัสระบบรักษาความปลอดภัยล่าสุดด้วย ก่อนตั้งค่าเป็น Wireless-N แนะนำให้คุณตรวจสอบเว็บไซต์ของผู้ผลิตด้วยว่า เฟิร์มแวร์ของเราท์เตอร์ที่คุณใช้อยู่ได้รับการอัพเกรดให้ใช้ได้แล้ว หรือยัง? ลองตรวจสอบ และทำตามดูนะครับ แล้วคุณจะพบกับประสบการณ์ใหม่ในการท่องเว็บไร้สายภายในบ้านของคุณ


2. หาฮวงจุ้ยที่เราท์เตอร์สามารถให้สัญญาณได้แรงที่สุด

เราท์เตอร์ ไม่ได้เป็นแก็ดเจ็ตที่สวยหรูดูดี ดังนั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่ชอบวางมันหลบๆ ซ่อนๆ ไว้ แต่มันเป็นเรื่องที่ผิดพลาดมากๆ เพราะเราท์เตอร์เป็นอุปกรณ์"ขี้ร้อน"และมันต้องการที่ทีมีอากาศถ่ายเทสะดวก ดังนั้นควรวางมันในที่เปิดโล่ง อย่างเช่น ตรงกลางบ้าน พยายามให้อยู่ห่างจากผนัง และสิ่งกีดขวาง อย่างเช่น ตู้เอกสารที่ทำจากหล็ก ไม่ควรวางเราท์เตอร์ให้เสาสัญญาณชิดติดกำแพง หรือออกไปนอกอาคาร เพราะจทำให้สูญเสียสัญญาณครึ่งหนึ่งที่ส่งออกไป แถมยังอาจจะกลายเป็นการสร้างจุดบอดของสัญญาณภายในบ้านซะด้วยซ้ำ ฮวงจุ้ยที่ดีทีสุดสำหรับการติดตั้งเราท์เตอร์คือ ที่สูงดีกว่าที่ต่ำ โดยเฉพาะบ้านสองชั้น ถ้าจะให้ง่ายหน่อยแนะนำให้คุณวางเราท์เตอร์ไว้เหนือชั้น หรือบนตู้สูง และไม่อยู่ชิดติดสิ่งกีดขวางที่อาจบล็อคสัญญาณได้



3. เปลี่ยนช่องสัญญาณ

การส่งสัญญาณไวไฟก็จะคล้ายๆ กับการทำงานของสถานีวิทยุ เราท์เตอร์ไร้สายถสามารถส่งสัญญาณไปบนช่องที่แตกต่างกัน ซึ่งหากคุณและ เพื่อนบ้านที่ใช้ไวไฟช่องสัญญาณเดียวกัน มันก็จะเกิดการแบ่งกันใช้เป็นธรรมดา ปัญหานี้อาจไม่เกิดขึ้นกับคุณหากเราท์เตอร์ที่ใช้มีคุณสมบัติการเปลี่ยนช่อง สัญญาณโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าไม่มี การปรับแต่งเลือกช่องสัญญาณทีมีการรบกวนน้อยสุดจะช่วยให้คุณได้สัญญาณไวไฟ ที่แรงขึ้น ลองศึกษาคู่มือ หรือค้นหาวิธีเปลี่ยนช่องสัญญาณ (Channel) ทีมีให้เลือก 1 - 11 แชนเนล จากเว็บไซต์ของผู้ผลิตเราท์เตอร์


4. ลดสัญญาณรบกวน

นอกจากการอัพเดทเทคโนโลยีทีใช้ ค้นหาฮวงจุ้ยของเราท์เตอร์ที่เหมาะสม เปลี่ยนแชนเนลสัญญาณที่ไม่ไปชนกับใครแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความแรง และระยะในการส่งสัญญาณไวไฟให้กับเราท์เตอร์ของเราก็คือ การลดสัญญาณรบกวนการทำงานจากอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ความถี่ใน ย่าน 2.4GHz อย่างเช่น โทรศัพท์ไร้สายภายในบ้าน เครื่องส่งสัญญาณเตือนเด็กตื่น และอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ตลอดจนเตาอบไมโครเวฟ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้สามารถส่งคลื่น 2.4GHz ที่แรงมาก จนรบกวนให้สัญญาณ Wi-Fi ของคุณสู้ไม่ได้ แนะนำให้วางเราท์เตอร์ห่างไกลจากอุปกรณ์เหล่านี้จะดีกว่า


5. ดูแลเน็ตเวิร์กให้ปลอดภัย

สำหรับ วิธีสุดท้ายที่จะช่วยให้สัญญาณไวไฟของคุณไม่ถูกแอบใช้โดยชาวบ้านจนอืดยืดยาด ไปหมด เนื่องจากการ Home Wi-Fi จะมีการปล่อยสัญญาณออกไปนอกบ้าน หากคุณไม่ทำการตั้งค่าระบบรักษาความปลอดภัยเอาไว้ อย่างเช่น การเข้ารหัส ซึ่งเราท์เตอร์ใหม่ๆ วันนี้จะได้รับผลกระทบต่อประสิทธิภาพความเร็วน้อยมาก แต่มันย่อมดีกว่า การโดนข้างบ้านแอบบใช้สัญญาณไวไฟของคุณ ท่องเน็ต โหลดบิต ดูยูทูบ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ แฮคเกอร์สามารถใช้เน็ตเวิร์กที่ไม้ได้รับการดูแลเรื่องความปลอดภัยขโมย ข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อได้ ในที่นี้ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้ตั้งค่าการเข้ารหัสด้วย WPA2 และใช้พาสเวิร์ดที่แข็งแรง
หวัง ว่า คำแนะนำง่ายๆ เหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ และทำให้คุณผู้อ่านได้ประสบการณ์ในการใช้โฮมไวไฟทีครอบคลุม และแรงเต็มประสิทธิภาพ เพื่อการอ่านข่าวบนไอแพดจะได้คล่องคอเหมือนกับกาแฟที่กำลังดื่มนะครับ

วิธีแชร์ wifi ipad


วิธีแชร์ไวไฟ อินเตอร์เน็ต wifi ipad + วิธีเปลี่ยนพาสเวิร์ด รหัสผ่าน เวอร์ชั่น:ไทย [version Thai]


1. เข้าไปที่ตั้งค่า





2. ไปที่ wifi แล้วเปิดไวไฟ






3. ไปที่ ฮอตสปอตส่วนบุคคล แล้วเปิดฮอตสปคส่วนบุคคล

แล้วก็มี รหัสผ่านสำหรับไวไฟค่ะ นั่นคือ รหัสผ่านนั่นเอง 555 เราจะสามารถตั้งรหัสผ่าน





วิธีเปลี่ยนพาสเวิร์ด รหัสผ่าน ของไวไฟ

ก็ทำตามข้างบนทุกอย่างเลยค่า แค่จิ้มตรง รหัสผ่านสำหรับ Wi-Fi

สีแดง คือ ยกเลิก
สีเขียว คือ เสร็จ
สีฟ้า คือ ช่องที่เราจะเปลี่ยนรหัสค่ะ


จบแล้วค่ะ

iPhone mini



iPhone mini (ไอโฟน มินิ) รุ่นต้นทุนต่ำ เตรียมเผยโฉมในเดือนมิถุนายนนี้ ? [ข่าวลือ]




[12-กุมภาพันธ์-2556] ถึงแม้ว่า กระแสข่าว (ลือ) เกี่ยวกับ iPhone 5S (ไอโฟน 5S) จะเป็นข่าว iPhone รุ่นถัดไป ที่น่าสนใจอยู่ในตอนนี้ แต่ดูเหมือนว่า กระแสข่าวเกี่ยวกับ iPhone รุ่นต้นทุนต่ำ ราคาประหยัด ก็ยังคงเป็นที่กล่าวถึงกันอยู่ครับ เมื่อ Brian White นักวิเคราะห์ที่เราคุ้นเคยกันดี จากสถาบัน Topeka Capital เชื่อว่า iPhone รุ่นต้นทุนต่ำ iPhone ราคาประหยัด ที่เคยตกเป็นข่าวมาก่อนหน้านั้น กับ iPhone mini (ไอโฟน มินิ) หรือ iPhone Air น่าจะยังคงมีอยู่จริง และอาจจะเปิดตัวภายในปีนี้อีกด้วย

นอกจากนี้ Brian White ยังได้เผยว่า จุดประสงค์ที่ทำให้เชื่อว่า Apple จะต้องเปิดตัว iPhone mini (ไอโฟน มินิ) นั้น ก็เพื่อนำไปแข่งขันในตลาดประเทศจีนนั่นเองครับ เนื่องจากตลาดมือถือในประเทศจีนนั้น มือถือระดับไฮเอนด์ ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ Xiaomi ซึ่งมีสมาร์ทโฟนระดับ Hi-end แต่ราคาเทียบเท่า สมาร์ทโฟนระดับกลางเท่านั้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปแข่งขันในตลาดมือถือ ได้อีกหลายๆ ประเทศด้วย เช่น บราซิล, รัสเซีย และอินเดีย

โดย Brian White ได้เผยว่า ถ้าหาก Apple ต้องการ เปิดตัว iPhone mini (ไอโฟน มินิ) จริง ควรจะต้องมีระดับราคาอยู่ที่ราวๆ $250-$300 (ประมาณ 7,500 - 9,000 บาท) และอาจจะเปิดตัว ภายในเดือนมิถุนายนนี้ครับ แน่นอนว่า บทวิเคราะห์จาก Brian White เป็นเพียง "การคาดคะเน" เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นความจริงหรือไม่ครับ

Windows 8


ทุกสิ่งที่คุณต้องการจากหน้าจอเริ่มต้นโดยตรง

ใส่แอพ ไซต์ และบุคคลทั้งหมดที่คุณโปรดปรานไว้บนหน้าจอเริ่มต้น รับอัพเดตล่าสุดในทันที และเข้าถึงทุกสิ่งได้อย่างง่ายดาย แค่แตะหรือคลิกเพียงครั้งเดียว

Live tiles
เดสก์ท็อป
จัดเรียงใหม่
แอพในตัว


อัพเดตได้ในทันที

ไม่ว่าจะเป็นสถานะของเพื่อนหรือข่าวด่วน ไทล์รายงานสดบนหน้าจอเริ่มต้นสามารถเคลื่อนไหวพร้อมแสดงข้อมูลล่าสุด

ดูฟีเจอร์เพิ่มเติม





















ทำงานในแบบฉบับของคุณ

คุณจะทำหลายสิ่งในคราวเดียวกันได้อย่างง่ายดาย รันหลายแอพในเวลาเดียวกัน และสแนปสองแอพที่อยู่เคียงข้างกัน



ความบันเทิงไม่มีที่สิ้นสุด

เปิด Windows Store จากหน้าจอเริ่มต้นของคุณได้โดยตรงเพื่อเรียกดูและดาวน์โหลดแอพทำอาหาร รูปถ่าย กีฬา ข่าวสาร และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแอพฟรี

อ่านเพิ่มเติม


พกพาไฟล์ของคุณติดตัวไปทุกที่




บันทึกไฟล์ไปยัง SkyDrive และเข้าถึงได้จากโทรศัพท์, แท็บเล็ต หรือพีซีของคุณ



เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ SkyDrive






แท็บเล็ต แท็บเล็ตแบบหมุนจอได้ คอมพิวเตอร์ออลอินวัน

แท็บเล็ตและพีซีที่ใช้ Windows 8 ทำงานได้อย่างรวดเร็ว รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว รองรับการใช้งานแบบสัมผัส และพร้อมสำหรับการเล่นสนุกสุดมันส์


ลองตรวจสอบพีซีเครื่องใหม่


มอบชีวิตใหม่ให้พีซีของคุณ

อัพเกรดพีซีของคุณในตอนนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ไฟล์, แอพ และการตั้งค่า Windows 7 จะถ่ายโอนไปยัง Windows 8 ได้อย่างง่ายดาย


อัพเกรดเป็น Windows 8





วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วิธีแก้ คอมพิวเตอร์ ไฟเข้า แต่เปิดไม่ติด

วิธีแก้ คอมพิวเตอร์ ไฟเข้า แต่เปิดไม่ติด 
ปัญหานี้อาจเกิดมาจากหลายสาเหตุ แต่ทุกสาเหตุอาจมีวิธีแก้ไขได้
1.ลองดูที่ IC ที่ตัวเมนบอร์ดว่ามีอาการบวมหรือป่าว ถ้ามีก้อเปลี่ยน
2.สวิซเปิด-ปิดเสียมั้ยลองซ็อคตรงขาสวิซดูที่เมนบอร์ด
3.ฝุ่นเยอะเครื่องสกปรกป่าวลองถอดออกแล้วนำไปล้างน้ำเปล่าดู(ก่อนจะล้างต้องถอดถ่าน Bios ออกก่อนนะจ๊ะ )
4.หากยังไม่ได้แนะนำซื้อใหม่เลยก้าเพราะถ้าเสียมากกว่านี้ซ่อมคงไม่คุ้มค่าเสียเงินและเวลา